ตุลาคม 18, 2024

s2p789

เว็บคาสิโนออนไลน์ s2p789 มีเกมพนันครบวงจร

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ทุกภาค

แฮร์รี่พอตเตอร์

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ซีรีส์ภาพยนตร์ Harry Potter ซึ่งปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากหนังสือสุดโปรดของ J.K. Rowling มีภาพยนตร์ 8 เรื่องซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ Harry Potter บิดามดชายหนุ่มผู้ถูกลิขิตให้เจอหน้ากับบิดามดดำ Lord Voldemort ตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นภาพรวมของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง:

Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001)

ภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นการสร้างบรรยากาศให้กับซีรีส์ทั้งสิ้น เป็นภาพยนตร์ที่มีมนต์ขลัง สนุกสนานรื่นเริง และก็เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเพื่อการเสนอแนะผู้ชมให้รู้จักกับโลกเวทมนตร์คาถา ภาพยนตร์ประเด็นนี้ถ่ายทอดความแปลกประหลาดและก็เสน่ห์ของการศึกษาและทำการค้นพบฮอกวอตส์ได้อย่างยอดเยี่ยม ดาราหนังรุ่นเยาว์ เป็นต้นว่า Daniel Radcliffe, Emma Watson และก็ Rupert Grint ต่างก็แสดงได้อย่างดียิ่งอย่างน่าแปลกใจ หากว่าพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ก็ตาม

เรื่องย่อ แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ในระหว่างที่วันเกิดปีที่ 11 ของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) ใกล้จะมาถึง เขาหวังเล็กๆว่าจะมีเรื่องมีราวตื่นเต้น หรือของขวัญจากครอบครัวเดอร์สลีย์ พี่น้องใจดำที่รับเลี้ยงแฮร์รี่ ภายหลังที่บิดามารดาของเขาเสียชีวิตลง แล้วก็บังคับให้เขานอนอยู่ภายในห้องใต้บันได

แต่ว่าปีนี้ วันเกิดของแฮร์รี่จะผิดแผกออกไป…

มีจดหมายลึกลับจ่าหน้าจดหมายถึงแฮร์รี่ เขียนด้วยน้ำหมึกสีเขียวมรกต โดยมีนกฮูกตัวหนึ่งเอามาส่ง แฮร์รี่รู้สึกแปลกใจ แล้วก็ตื่นเต้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นต้นเหตุของจดหมาย แม้กระนั้นคุณลุงเวอร์นอน (ริชาร์ด กริฟฟิธส์) จอมโหดเหี้ยม ทำลายมันทิ้งซะก่อนที่แฮร์รี่จะได้โอกาสอ่านมัน

วันถัดมา มีจดหมายอีกฉบับมากับนกเค้าแมว แต่ว่าครอบครัวเดอร์สลีย์ทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ในวันรๆมา จดหมายมากไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็นกเค้าแมวยังคงส่งถึงแฮร์รี่ กระทั่งกระอีกทั้งครอบครัวเดอร์สลีย์กลัวว่า พวกเขาไม่สามารถที่จะปกป้อง สิ่งที่ใส่อยู่ข้างในจดหมายได้อีกต่อไป โดยเหตุนี้พวกเขาก็เลยพาแฮร์รี่ไปยังกระต๊อบที่อยู่พ้นหูพ้นตาผู้คน ที่ที่พวกเขาแน่ใจว่าจะไม่มีผู้ใดเจอ

แผนของพวกเขาดูท่าจะเห็นผล จนตราบเท่ากำเนิดเสียงชนดังอย่างแรง จนถึงบานประตูกระต๊อบหลุดออกมาจากบานพับ พร้อมทั้งการปรากฏกายของชายร่างยักษ์ที่ชื่อ แฮกริด (ร็อบบี้ วัวลทราน) ด้วยความโมโหครอบครัวเดอร์สลีย์ที่ทำลายจดหมาย แล้วก็บากบั่นปกปิดฐานะที่จริงจริงของหลานชาย แฮกริดก็เลยได้เปิดเผยความลับ ที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในชีวิตของแฮร์รี่ เรื่องจริงที่ว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นบิดามด!

หากว่าแฮร์รี่ไม่ต้องการจะเชื่อ แต่ว่าจดหมายพิศวงที่เพียรส่งมา เป็นคำเชิญชวนสำหรับเขา ในจังหวะครบรอบวันเกิดปีที่ 11 เพื่อออกมาจากโลกธรรมดา และก็ร่วมกลุ่มกับสหายๆที่มีความรู้และความเข้าใจใกล้เคียงกับเขา ที่สถานศึกษามนต์บิดามดแม่มดรวมทั้งมนตร์ศาสตร์ ฮอกวอตส์

แฮกริดยังได้ชี้แจงถัดไปอีกว่า บิดามารดาของแฮร์รี่มิได้ตายด้วยอุบัติเหตุรถชน อย่างที่เครือญาติใจดำของเขาย้ำให้ฟังเสมอ ข้อเท็จจริงก็คือ พวกเขาถูกฆ่าตายโดยบิดามดผู้ทราม ซึ่งเป็นตัวแนวทางการทำให้กำเนิดรอยแผลเป็นรูปสายฟ้าฟาด ที่มองเห็นกระจ่างบนหน้าผากของแฮร์รี่

แฮร์รี่รู้สึกตื้นตันใจกับเรื่องจริง ที่เขาได้รับทราบเกี่ยวกับบิดามารดา และก็การได้รับชักชวนไปที่ฮอกวอตส์ แต่ การที่เขาจำเป็นต้องทนอยู่ข้างในห้องใต้บันได และก็เป็นผู้ไม่เป็นที่ต้องการ ทำให้เขาไม่รีรอที่จะร่วมเดินทางไปกับแฮกริด ไปยังสถานีคิงส์ครอส ในลอนดอน ที่ที่เขาได้เจอความลับ เกี่ยวกับชานชาลาสถานีเลขลำดับ 9 3/4 เพื่อจับรถด่วนฮอกวอตส์

เขาเดินทางด้วยรถไฟ ไปพร้อมด้วยพวกผู้เรียนปีหนึ่ง แฮร์รี่ได้ทำความรู้จักกับสหายอย่าง เฮอร์ไมโอนี่ เกรนพบร์ (เอ็มม่า วัตสัน) และก็ รอน วีสลีย์ (รูเพิร์ต กริ้นท์) แฮร์รี่รวมทั้งบรรดาเพื่อนฝูงใหม่ของเขา ร่วมการเสี่ยงอันตรายที่ฮอกวอตส์ สถานที่ที่งดงามน่าประทับใจ เกินกว่าที่แฮร์รี่จินตนาการไว้ ที่ที่เขาศึกษาค้นพบพรสวรรค์ของเขา รวมทั้งเจอบ้านแล้วก็ครอบครัวที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter

แฮร์รี่พอตเตอร์

Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002)

ภาคลำดับที่สองทำให้ความเร้นลับสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นด้วยส่วนประกอบที่มืดหมองเพิ่มขึ้น การเผชิญหน้าระหว่างแฮร์รี่กับบาสิลิสก์โจรกาจรวมทั้งทอม ริดเดิ้ลผู้ลึกลับทำให้มีความระทึกใจมากขึ้นเรื่อยๆ การเสี่ยงสูงมากขึ้น แล้วก็เอฟเฟกต์พิเศษดีแล้วขึ้นอย่างชัดเจน

จุดเด่น: เค้าเรื่องที่มืดมนรวมทั้งจูงใจเยอะขึ้นเรื่อยๆพร้อมฉากที่น่าเร้าใจ
ข้อบกพร่อง: เล็กน้อยมองชี้แจงเยอะเกินไป และก็โทนเรื่องบางทีอาจไม่บ่อยนัก

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (2004)

ดูแลโดยอัลฟองโซ คัวรอน ภาพยนตร์หัวข้อนี้ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนโทนเรื่องที่สำคัญในซีรีส์นี้ ธีมที่มืดหม่นหมองกว่านั้นสมดุลกับการพัฒนานักแสดงที่สุดยอดแล้วก็ความเชื่อมโยงที่สลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การถ่ายรูปมีศิลป์มากขึ้นเรื่อยๆอย่างชัดเจน

จุดเด่น: การควบคุมที่หนักแน่น ผู้แสดงที่ลึกซึ้งขึ้น รวมทั้งโทนเรื่องที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น

ข้อด้อย: แฟนคลับบางบุคคลมีความรู้สึกว่ามันเบี่ยงเบนไปจากเนื้อหาของหนังสือมากจนเกินไป

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี (2005)

ความยุ่งยากกำลังคอย แฮร์รี่ พอตเตอร์ อยู่ด้านหน้า…จากการเช็ดกคุกคามด้วยฝันร้าย ที่ทำให้รอยแผลของเขาเจ็บมากกว่าที่เคย แฮร์รี่ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) รู้สึกมากกว่ายินดีที่กำลังจะได้หนีให้พ้น จากความฝันที่รอกวนโอ๊ยเขา ด้วยการไปดูการแข่งขันชิงชัยควิดดิชเวิลด์คัพกับ รอน (รูเพิร์ท กรินท์) รวมทั้ง เฮอร์ไมโอนี่ (เอ็มม่า วัตสัน) ผู้เป็นเพื่อนรัก

แต่ว่าลางบางสิ่งบางอย่างได้ปรากฏขึ้น เหนือฟ้าที่ตั้งแคมพ์ผู้ชมการประลองควิดดิช – ยี่ห้อมาร เครื่องหมายของลอร์ดโม้ลเดอมอร์ ซึ่งถูกเสกขึ้นมาโดยผู้เสพความตาย สาวกของเขาซึ่งไม่เคยกล้าเผยตัวในที่ชุมชน ตั้งแต่ครั้งที่มีผู้เห็น โอ้อวดลเดอมอร์ (ราล์ฟ เฟนส์) เป็นคราวสุดท้ายเมื่อสิบสามปีกลาย ในคืนที่เขาฆ่าบิดามารดาของแฮร์รี่

ดัมเบิลดอร์ประกาศว่า ฮอกวอตส์จะเป็นเจ้าภาพการประลองเวทสนธิสัญญาไตรภาคี การแข่งขันชิงชัยด้านมนตร์ของพวกบิดามดแม่มด ที่น่าระทึกใจแล้วก็มีอันตรายยิ่ง ผู้แทนหนึ่งคนจะถูกเลือกเฟ้นจากแต่ละสถานศึกษา ในสามสถาบันบิดามดแม่มดที่ใหญ่ รวมทั้งเป็นที่รู้จักที่สุด เพื่อลงแข่งขันในนานัปการภารกิจ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายถึงชีวิต อันมีเป้าหมายสำหรับในการครอบครองถ้วยรางวัลสนธิสัญญาไตรภาคี

พวกเด็กนักเรียนฮอกวอตส์เฝ้าดูอย่างหวั่นหวาดๆเมื่อบรรดาเด็กนักเรียนผู้หญิงที่งามเด่น จากสถานศึกษาคาถาอาคมโบซ์บาตง รวมทั้งชายหนุ่มๆที่มองลึกลับและก็น่าเคารพ จากสถานที่เรียนเดิร์มสแตรงก์ พากันหลั่งไหลเข้ามาในห้องรับรอง ทุกคนต่างกลั้นใจ รอการคัดสรรผู้แทนของพวกเขา

แฮร์รี่พอตเตอร์

ข้าราชการจากกระทรวงเวทมนตร์คาถา บาร์ตี้ เคร้าช์ (โรเจอร์ ลอยด์ แพ็ค) แล้วก็ศ.จ.ดัมเบิลดอร์ เป็นประธานพิธีการสัมมนากึ่งกลางแสงเทียน ที่เต็มไปด้วยการคอย ในระหว่างที่ถ้วยอัคนิซึ่งเปี่ยมมนตร์ขลัง คัดเด็กนักเรียนหนึ่งคน จากแต่ละสถานที่เรียนเพื่อลงแข่งขัน ท่ามกลางประกายรวมทั้งเปลวเพลิงที่เจิดจ้า

ถ้วยอัคคีได้ตอบนาม วิคเตอร์ ครัม (สแตนิสลาฟ ไออาเนฟสกี้) นักกีฬาควิดดิชมีชื่อเสียงจากเดิร์มสแตรงก์ ตามมาด้วย เฟลอร์ เดอลากูร์ (เคลมองซ์ โพเอซี) ผู้งานเด่นเป็นสง่าจากโบซ์บาตง รวมทั้งในที่สุด เซดริก เกเกลื่อนกลาดอปรี่ (โรเบิร์ต แพตตำหนินสัน) ชายหนุ่มเนื้อหอมผู้สามารถที่ฮอกวอตส์ แม้กระนั้นแล้ว อย่างที่ไม่มีผู้ใดชี้แจงได้ ถ้วยไฟก็ส่งชื่อท้ายที่สุดออกมา : แฮร์รี่ พอตเตอร์

ด้วยอายุ 14 ปี แฮร์รี่ยังขาดอีกสามปี ก็เลยจะมีสิทธิร่วมการแข่งขันชิงชัยอันแสนยากเย็นแสนเข็ญนี้ได้ เขาการันตีว่ามิได้ใส่ชื่อจริงเองลงไปในถ้วย แล้วก็เขาไม่ได้อยากต้องการลงแข่งขัน แต่ว่าการตัดสินใจของถ้วยไฟนั้นนับว่าเป็นข้อสัญญา และก็เขาจำเป็นต้องร่วมชิงชัยด้วย

ความกังขาและก็อิจฉาริษยาเกิดขึ้นตามมาไม่หยุดหย่อน ยิ่งเมื่อผู้รายงานข่าวจอมสาดโคลนอย่าง ริต้า สกีตเตอร์ (ไม่แรนด้า ริชาร์ดสัน) โหมกระจายไฟใส่สีอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังแฮร์รี่ ด้วยคอลัมน์ซุบซิบที่หวือหวาของคุณ กระทั่งกระทั่งรอนเองก็ยังเริ่มที่จะมั่นใจว่าสหาย “ที่ต้องการดัง” ของเขา ได้ใช้กลอุบายหลอกให้ถ้วยเลือกชื่อเขาขึ้นมา

สำหรับแฮร์รี่ การต่อกรกับมังกร ชาวนางเงือก รวมทั้งกรินดี้โลว์ เปรียบได้เสมือนดั่งการเดินเที่ยวในสวนสาธารณะ เมื่อเทียบกับการขอนัดกับ โช แชง (เคธี่ เหลียง) ผู้น่ารักน่าเอ็นดู ไปงานเต้นรำ และก็หากว่ารอนผิดเบี่ยงเบนความพึงพอใจเยอะเกินไป บางคราวเขาบางทีอาจสารภาพการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก ที่เขามีต่อเฮอร์ไมโอนี่ก็เป็นไปได้

ในขณะแฮร์รี่รวมทั้งผู้แทนผู้อื่นจำเป็นต้องจัดการกับภารกิจท้ายที่สุด รวมทั้งแขนงที่แตกออกอย่างเร็วของเขาวงกตที่น่าสยดสยอง บางบุคคลหรืออะไรบางอย่างกำลังสังเกตอยู่ พวกเขาแลเห็นชัยอยู่ตรงหน้า แม้กระนั้นเมื่อเข้าไปใกล้ถ้วยสนธิสัญญาไตรภาคี ทุกๆอย่างกลับมิได้เป็นอย่างที่มองเห็น รวมทั้งแฮร์รี่ก็ได้พบว่า ตัวเขากำลังพุ่งตรงเข้าไปสู่การเผชิญหน้ากับมารร้าย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…

Harry Potter and the Order of the Phoenix (2007)

เป็นภาพยนตร์ที่มืดหมองที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภาคนี้เอ๋ยถึงการมีอยู่ของกระทรวงมนตร์ที่น่าอึดอัดแล้วก็การต่อสู้ข้างในตัวของแฮร์รี่ อีเมลดา สเตาน์ตันในบทโดโลเรส อัมบริดจ์แสดงบทตัวร้ายที่น่าจำ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ย้ำการบ้านการเมืองแล้วก็จิตวิทยามากยิ่งกว่า

จุดเด่น: การแสดงที่ทรงอำนาจ ธีมที่มืดหม่นหมองแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ความลึกทางอารมณ์
ข้อบกพร่อง: แฟนคลับบางบุคคลพลาดส่วนประกอบสำคัญจากหนังสือเนื่องมาจากเรื่องราวที่กระชับ

Harry Potter and the Half-Blood Prince (2009)

ภาพยนตร์หัวข้อนี้เจาะลึกเรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังของโม้ลเดอมอร์ตในขณะย้ำที่ความเครียดที่เยอะขึ้นระหว่างนักแสดง ภาพยนตร์หัวข้อนี้สวยสดงดงามงดงาม มีความสมดุลระหว่างอารมณ์ขันแล้วก็หายนะที่ใกล้เข้ามา การเปิดเผยตัวพระราชโอรสเลือดผสมนับว่าเป็นขณะสำคัญ

จุดเด่น: ภาพที่งาม ความสลับซับซ้อนทางอารมณ์ ความสมดุลของอารมณ์ขันแล้วก็ความมืดดำมิดที่สุดยอด
จุดด้วย: ส่วนประกอบอะไรบางอย่างมองรีบร้อน รวมทั้งการต่อสู้คราวสุดท้ายก็มองไม่ค่อยสำคัญเมื่อเทียบกับหนังสือ

Harry Potter and the Deathly Hallows – ขณะที่ 1 (2010)

ครึ่งแรกของหนังสือปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเล่มท้ายที่สุดนั้นค่อนจะเดินเรื่องช้าๆภาพยนตร์หัวข้อนี้เน้นย้ำไปที่การเดินทางของอีกทั้งสามคนเพื่อค้นหาฮอร์ครักซ์ เรื่องราวออกจะมืดหมอง เชิญให้ครุ่นคิดพิจารณา แล้วก็เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

จุดเด่น: ย้ำที่นักแสดงอย่างเข้มข้น บรรยากาศเคร่งเคลียด วิวงาม
ข้อผิดพลาด: จังหวะที่ช้าบางทีอาจมองไม่จบสิ้น และก็ฉากแอ็กชั่นก็น้อย

Harry Potter and the Deathly Hallows – ในขณะที่ 2 (2011)

ผลสรุปที่ยิ่งใหญ่ยอดเยี่ยมนี้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่สร้างไว้ตลอดทั้งซีรีส์ การต่อสู้ที่ฮอกวอตส์นั้นน่าระทึกใจ ชักชวนอารมณ์ รวมทั้งน่าพึงพอใจ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ผูกเรื่องส่วนมากเข้าด้วยกันแล้วก็เป็นจุดสิ้นสุดที่สมควรให้กับการเดินทางของแฮปรี่ islam-in-focus

จุดเด่น: ฉากต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ความลึกทางอารมณ์ ผลสรุปที่ถูกใจ

ข้อบกพร่อง: เค้าเรื่องของผู้แสดงบางตัวมิได้รับการพัฒนาเพราะเหตุว่าจังหวะที่เร็วของฉากแอ็กชั่น