The Admiral Roaring Currents (2014) เต็มเรื่อง KUBHD.COM

The Admiral Roaring Currents ภาพยนตร์ประเด็นนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรบที่ Myeongryang ในปี 1597 ที่มีชื่อขณะที่ญี่ปุ่นบุกประเทศเกาหลี (1592-1598) ซึ่งพลเรือเอก Yi Sun-sin ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโชชอนสามารถทำลายเรือรบของญี่ปุ่นได้ทั้งสิ้น 31 ลำจาก 133 ลำโดยมีเพียงแค่ 13 ลำที่เหลืออยู่ . การสู้รบซึ่งเกิดขึ้นในช่องแคบเมียงยางนอกริมฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของแหลมประเทศเกาหลีถือว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของยี่

ดูหนัง ออนไลน์ The Admiral Roaring Currents เต็มเรื่อง

มหากาพย์ภาพยนตร์ประเทศเกาหลีใต้ทุ่มทุนสร้างกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวการสู้รบบนมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ปี 2014 ผลิตจากความจริงที่ถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์เมื่อปี คริสต์ศักราช 1597 ของ พลเรือเอกยีซุนคุ้นชิน (แสดงบทโดย ชอยมินสิกข์ จาก Oldboy) หัวหน้าเรือรบเชื้อชาติประเทศเกาหลีซึ่งมีแต่ 12 ลำ หากว่าสามารถเอาชนะ พลเรือเอกโทโดะ กับทัพเรือประเทศญี่ปุ่นที่มีแสนยานุภาพกว่า 300 ลำ ด้วยการวางเป้าหมายและก็การอ่านแนวทางลม กระทั่งเปลี่ยนเป็นกลยุทธที่ถูกปรับใช้เพื่อเล่าเรียนจนกระทั่งถึงบัดนี้

เกิดเหตุจริงของประวัติศาสตร์ประเทศเกาหลีใต้ช่วงวันที่ 26 ตุลาคม ปี คริสต์ศักราช 1597 ด้วยการเอาชนะทัพเรือประเทศญี่ปุ่นกว่า 300 ลำในขณะตนเองมีเพียงแค่ 13 ลำแค่นั้น อาจจะฟังมองเวอร์เกินจริงไปบ้างแม้กระนั้นหัวข้อนี้ได้พิสูจน์ถึงเล่ห์กลอย่างชำนิชำนาญถึงการวางเป้าหมายที่แยบคายกับความเด็ดเดี่ยวที่ไม่ยอมแพ้ The Admiral Roaring Currents โดยทางเรื่องเริ่มที่ยีซุนเคยชิน (Min-sik Choi) แม่ทัพเรือข้างประเทศเกาหลีที่พบศึกหนักปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านทางทะเลกันพวกประเทศญี่ปุ่นขึ้นบกไปเมืองหลวง แน่ๆว่าในขณะนั้นข้างประเทศเกาหลีมีภาวการณ์ที่เสื่อมโทรมตกรองจนตราบเท่าช่องทางคว้าชัยกลับมาเกิดเหตุได้ยาก

โดยยิ่งไปกว่านั้นพลังใจที่เบาๆเลื่อนหายไปจากเหล่าทหารทีละน้อยที่ละหน่อย ไม่เว้นแม้กระทั้งยีซุนคุ้นชินที่ทรุดหนักทั้งยังทางร่างกายแล้วก็จิตใจกับการเช็ดกข้างประเทศญี่ปุ่นหลอกใช้แล้วก็ถูกทำโทษสถานที่หนักก่อนที่จะมองเห็นประเด็นหลักในตัวยีซุนเคยชินให้กลับมารับใช้กองทัพอีกรอบ แม้อะไรไม่พอๆกับการต่อสู้น่านน้ำที่เกือบจะไม่มีความมีชัยเนื่องจากกำลังพลที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว ยีซุนเคยชิน แม่ทัพคลื่นขู่คำราม ซึ่งความมุ่งมาดสุดท้ายเป็นการใช้ทางเรือเต่าอันเป็นแผนเด็ดของยีซุนเคยชินที่ใช้สู้แบบพลุ่นพล่านฝ่าใส่ศัตรูด้วยเรือที่ทรหดอดทนกว่า

รีวิว ดูหนัง ออนไลน์ ยีซุนชิน ขุนพลคลื่นคำราม (2014)

หากว่าระหว่างคอยเรือเต่าที่ใกล้เสร็จก็มีเรื่องมีราวล้นหลามวนใจมากมายแล้วก็หนึ่งในนั้นเป็นความนึกเห็นของทหารคนอื่นที่มองดูในตัวยีซุนคุ้นชินแปลงเป็นคนไม่มีหัวคิดประเมินตนเองสูงเหลือเกินในเวลาที่ผลก็ปรากฎด้านหน้าแล้วแท้ๆถึงแม้แล้วประวัติศาสตร์จำเป็นต้องจารึกไว้ว่าผู้ทำศึกรบได้อย่างชาญฉลาดจึงควรยึดหลักความทรหดอดทนและก็ใจเย็นเพียงเท่านั้นถึงจะเสร็จได้ แล้วก็ยีซุนคุ้นชินเป็นคนนั้นซึ่งสามารถสยบทัพเรือประเทศญี่ปุ่นด้วยเพศผู้เดียว

อารมณ์ทำนองว่าทราบตอนสุดท้ายอยู่แล้วว่ามาในต้นแบบไหนซึ่งเป็นความจำกัดของหนังที่อิงจากประวัติศาสตร์ แม้กระนั้นข้อดีก็คือได้อะไรที่สดใหม่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวและจากนั้นก็บางคราวก็ทำนายใจทางได้ยากถึงความมากมายจากความจริงที่ไม่มีผู้แสดงนำชายหรือนางเอกเป็นตัวเด่นเสมอ ถึงแม้ตัวแสดงนำของเรื่องเป็นยีซุนคุ้นชินที่เริ่มเรื่องด้วยการเกริ่นเงื่อนศิลปินในแบบย่ำแย่จากผู้ต้องขังแปลงเป็นแม่ทัพเนื่องแต่คำบัญชาเบื้องบนที่เห็นค่า

เพียงแต่จุดนี้ก็ชี้ได้แล้วว่าข้างประเทศเกาหลีด้อยกว่าประเทศญี่ปุ่นมากน้อยแค่ไหนที่ไม่สามารถที่จะหาคนมาแทนตำแหน่งได้ อีกอย่างเป็นการที่ทำผิดแล้วยังคืนตำแหน่งเดิมได้นั้นเป็นการบอกอปิ้งหนึ่งว่าเป็นคนสำคัญที่สุดคนหนึ่ง ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ว่าเป็นตัวละครที่ไม่ธรรมดาแน่ๆดังนี้ศิลปินต่างๆโดยยิ่งไปกว่านั้นข้างประเทศญี่ปุ่นยังพากันชมเชยเป็นผู้ที่ล้มได้ยากแล้วหลังจากนั้นก็เป็นขวากหนามชิ้นสำคัญต่อการยึดเมืองหลวง อะไรทำให้ยีซุนคุ้นชินเป็นผู้ที่มองหน้ากลัวและจากนั้นก็ถูกเอ่ยชื่อขนาดนั้นได้ นั้นเหตุเพราะเขาเป็นแม่ทัพเรือ

ด้วยเหตุว่าเขาเป็นคนที่ใครๆก็รู้จักใช่หรือไม่ ก็บางทีอาจจะใช่แต่เมื่อสัมผัสนักแสดงนี้ไปบ่อยมากจะมีความคิดเห็นว่าเว้นเสียแต่ร่างกายที่ย่ำแย่กับบางฉากที่ไอมาเป็นเลือดเนื่องจากมาจากการได้รับการถูกลงโทษยังมีภาวการณ์จิตใจที่ผิดแปลกจากทหารธรรมดากระทั่งเรียกว่าสะดุดตาแล้วหลังจากนั้นก็มีภาวการณ์ราวเก็บกดในใจแปลงเป็นคนนิ่งทำนายใจหัวใจได้ยาก

อันดับแรกจะเต็มไปด้วยสถานการณ์จิตใจของนักแสดงหลายตัวแม้กระนั้นที่แน่ๆสุดเป็นยีซุนเคยชินเพราะว่านิ่งราวท้อในใจก็แค่ไม่ยินยอมกล่าวบอกกับอีกแง่เป็นอย่างยิ่งคิดบางอย่างจิตใจพวกพอใจอยู่ตามลำพังคนเดียว ซึ่งมองดูได้จากการสัมมนาที่ต่อให้บุคคลอื่นเสนอแนวความคิดแบบไหนก็แปลงเป็นยีซุนคุ้นชินมิได้พึงพอใจอะไรนักแล้ว ก็สั่งเลิกสัมมนาอย่างไม่ทันได้จับใจความจนตราบเท่ากำเนิดข้อขัดข้องถึงสุขภาพที่เกี่ยวข้องทางจิตที่ยังเหมาะสมกับการควบคุมทหารถัดไปหรือเปล่า

ยีซุนชิน ขุนพลคลื่นคำราม จะแบ่งเป็น 2 ตอนใหญ่ๆ

เป็นการเกริ่นนักแสดงแล้วก็มองจิตใจสำหรับการรบทั้งยังข้างประเทศเกาหลีกับข้างประเทศญี่ปุ่นด้วยการนำเสนอในมุมที่คนละเรื่องคนละราวในด้านความรู้สึกพลังใจ หากอีกข้างกำลังกุ้มหัวใจวิตกกังวลอีกข้างเป็นอย่างยิ่งเริ่มจะมีความสบายแล้วหลังจากนั้นก็เชื่อมั่นเต็มเปี่ยม แล้วก็ช่วงสุดท้ายเป็นฉากแอ็คชั่นที่จัดเต็มจัดอยู่หลายนาทีนานนับชั่วโมง สำหรับขั้นที่หนึ่งจะเป็นการตรวจจิตใจของแต่ละข้าง

ซึ่งพวกเราจะมองเห็นสิ่งที่แตกต่างถึงข้างประเทศเกาหลีที่มีความเคร่งเครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกับปัญหาเกี่ยวกับในค่ายทหารที่เกิดขึ้นมาจากความประพฤติปฏิบัติของยีซุนคุ้นชินที่มัวแต่นิ่งอึ้งตั้งมั่นในอุดมการณ์ทหารห้ามถอย ดูได้ว่ามีเพียงแค่ยีซุนเคยชินเพียงแค่นั้นที่ปักหลักกล้าสู้ในตอนที่อีกคนไม่ใช่น้อยมีลักษณะอาการไม่มั่นใจจะสามารถชนะหรือรอดไปได้ไหมในเรื่องราวด้อยกว่าอย่างงี้

รวมถึงแน่ละว่ามีคนไม่ชอบใจในตัวยีซุนคุ้นชินที่ทำท่าราวกับทองไม่รู้ร้อนแทนที่จะไปรวมกลุ่มร่วมกับทหารข้างบกเพื่อรวมกำลังกันสู้ กระนั้นก็มีเสียงเห็นด้วยในตัวยีซุนเคยชินไม่น้อยกับการเชื่อใจควรจะมีวิธีทางที่เป็นได้อยู่ ซึ่งเป็นเรือเต่าความหวังท้ายที่สุดที่ยีซุนเคยชินจะใช้ผสานกับสายน้ำ โดยรวมแล้วระยะต้นของหนังค่อนจะประณีตบรรจงไปหน่อยสำหรับในการเข้าถึงมิติศิลปินอย่างยีซุนเคยชินที่เริ่มเรื่องก็บรรจบที่การเป็นแม่ทัพเรือจึงควรจากที่แปลงเป็นผู้ต้องขังเนื่องจากว่าประเทศญี่ปุ่นหลอกใช้ ประเด็นนี้เปรียบตั้งมั่นวางให้มีความเกี่ยวข้องเชิงขุ่นเคืองในใจซึ่งน่าจะเป็นอย่างนั้น

กลายเป็นว่าดูหม่นหมองลดน้อยเสียแทนรวมทั้งภาวการณ์จิตใจที่เช่นเดียวกันกับสู้ไปเพื่อเกียรติเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามตัวยีซุนเคยชินยังอุตสาหะทำให้ทหารภายในค่ายรู้สึกคิดสู้ตลอดระยะเวลาแม้ว่าจะหดหู่เท่าไรก็ยังทำในสิ่งที่หลายคนยังผวาด้วยการตายทหารของตนที่ยอมเฉพาะหน้าคนอีกหลายๆคนเพื่อคนอื่นๆตั้งมั่น The Admiral Roaring Currents แต่แปลงเป็นดาบสองคมที่เสียงหนึ่งรู้เรื่องว่าเป็นหน้าที่ของทหารเมื่อหนีกองทัพจำเป็นที่จะต้องประหารแม้กระนั้นอีกเสียงมองดูเป็นคนสิ้นคิดที่เดินไปพบความตาย

สิ่งที่ยีซุนเคยชินทำมาตลอดไม่มีความต่างกับดาบสองคมถึงแม้ว่าจะมีคนรู้เรื่องเยอะมากมายสักเท่าไหร่ยังรู้สึกอึดอัดกับวิธีการหรือจะให้เทียบกับฝั่งของประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นด้านตรงกันข้ามระหว่างสองฝั่งที่เคร่งเคลียดกับมั่นอกมั่นใจ นอกเหนือจากการที่จะแสดงถึงการสำรวจศิลปินฝั่งประเทศเกาหลีที่ไม่สู้ดีก็ยังมีด้านประเทศญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ของตนเองแบบเกินล้นเนื่องจากว่าการกำจัดยีซุนเคยชินไม่ใช้ว่าจะง่ายแล้วก็เพื่อความไม่ประมาทก็เลยส่งมือดีอย่างคูรุซิมะ (Seung-ryong Ryu) ที่ไม่เชิงว่าจะราวกับทหารประเทศญี่ปุ่นปกติเหตุเพราะมีความสามารถการต่อสู้แบบลักขโมยที่เน้นย้ำความโหดเหี้ยมเป็นหลัก รวมทั้งหนึ่งในความรุนแรงเป็นการวางเป้าหมายตัดทอนกำลังดวงใจอีกข้างด้วยการกำจัดตัวประกันประเทศเกาหลีให้หมดเกลี้ยง

ก่อนที่จะส่งไปให้กรุ๊ปของยีซุนชีนแค่เพียงหัวเพื่อรังควานขวัญแรงใจให้หมดเกลี้ยง แน่ๆว่าวิธีนี้เห็นผลกับทุกคนเว้นเสียแต่ยีซุนชีนที่อาจมองด้วยความเจ็บถึงแม้ว่าไม่เลยที่จะแสดงออกมาให้คนไหนกันมองเห็นถึงความทรมาทรกรรมถึงส่วนลึกในจิตใจ อย่างเดียวที่เกื้อหนุนจุนเจือให้ยุยงซีนคุ้นชินกับคำอื่นๆ

ยังพอเพียงมีหวังได้เป็นเรือเต่าอันเป็นแผนในที่สุดสู้กับศัตรู ถึงแม้ว่าหลายท่านจะมั่นอกมั่นใจแม้ไม่น้อยที่ขวัญแรงใจแสดงให้คิดเลิกถึงแม้ว่าไม่สามารถที่จะทำเป็นจนกระทั่งต่อกำเนิดกบฏฝ่ายในที่ซึ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมข้างที่แปลงเป็นรองให้ตกต่ำเข้าไปอีกจนกระทั่งกับจำเป็นต้องสูญเสียแนวทางการทีเด็ดอย่างเรือเต่าท่ามกลางเปลวที่เผาไหม้ในขณะพร้อมใช้งานได้อีกเพียงวันเดียว ในฉากนี้เต็มไปด้วยความหมดกำลังใจแล้วก็โกรธจากการสูญเสียแล้วหลังจากนั้นก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่สู้เสียด้วยซ้ำ

ถึงขนาดที่ว่ายีซุนเคยชินที่นิ่งแน่ยังจำต้องกังวลใจเจ็บยืนดูเรือเต่าล่มสลายซึ่งๆหน้าก่อนที่จะทหารองค์รักษาจะมาห้ามเอาไว้ก่อนจะวิ่งเข้าไปในเปลวไฟอย่างไม่คิดชีวิตเพราะหม่นหมองที่เสียของสำคัญไปตราบจนกระทั่งไม่น่าจะเสียได้อีกแล้ว และด้วยฉากดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วทำให้พวกเราแลเห็นการแสดงของ Min-sik Choi ยืนร้องไห้หมดสภาพความเป็นหัวหน้าที่ตัวหนังสร้างมาตลอดได้อยู่มือ ดังนี้จึงต้องควรรับสารภาพว่านอกจากฉากดังกล่าวข้างต้นล้วนมีความแหลมคมเข้มตลอดระยะเวลาตราบจนกระทั่งไม่มีความต่างกับศิลปินที่เล่นแข็ง แม้กระนั้นถ้าว่ามองในทางมิติผู้แสดงก็จัดว่าสมจริงสมจังไม่ใช่น้อย

กระนั้นความชอบใจมิได้อยู่ที่ข้างของยุยงซีนชุนเพียงแค่ฝ่ายเดียวเมื่อมองกลับมาที่คูรุซิมะที่น่าหวาดผวาร้ายแรงไม่แพ้ยุยงซีนชีนราวกับดูจะรับประทานทุกคนที่เข้ามาขวางกั้นรวมทั้งแปลงเป็นความพิเศษด้วยไม่เหมือนกันจากทหารประเทศญี่ปุ่นธรรมดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวข้อการเป็นมิตรที่ราวกับจะไม่ค่อยต้องการจะยินดีสุขใจกับเหล่าโชกุนเท่าไรนักแถมยังกล้าบอกดูถูกเหยียดหยามซึ่งๆหน้าทุกคนราวไม่มีอะไรเกิดขึ้นกระทั่งสร้างความไม่พึงพอใจกับบางบุคคลไม่น้อยรวมถึงเริ่มสงสัยถึงความรู้ความเข้าใจการรบที่เก่งแต่ปากไหม

ซึ่งตัวหนังก็สร้างความน่ากลัวออกมาจากแผนอันเหี้ยมโหดเปลี่ยนเป็นว่านี้เป็นของแท้ต่างจากพวกเจ้าขุนมูลนายหรือโชกุนที่ยังรบด้วยความร่าเริง แต่ที่หนักแน่นจริงๆเป็นแนวทางการกับความไม่อะลุ้มอล่วยที่รอลักขโมยแนวทางด้วยความสุขุมด้วยมายากลศึกฝ่าแบบไม้เดียวจบทั้งยังลอบจู่โจมจากระยะไกล ส่งเรือระเบิด เอาง่ายๆฝ่าเป็นฝ่าเพราะมีปริมาณที่มากกว่าวิถีทางชนะก็มีมากยิ่งกว่าด้วย

จะว่าแล้วคูรุซิมะเองก็นับเป็นตัวละครที่น่าเคารพในเรื่องของวิธีการที่ดูสไตล์รบแบบมิจฉาชีพถึงแม้ก็ถือมั่นในเกียรติและก็สารภาพความรู้ความเข้าใจของศัตรูอีกด้วย สิ่งที่น่าดึงดูดเป็นคูรุซิมะตอนทำสงครามมิได้ใช้ความรุนแรงเรือประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดที่มีเพียงใช้เฉพาะทหารของตนเพียงเท่านั้น ดังนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ตนเองว่าถูกส่งมาเพื่อสิ่งนี้โดยยิ่งไปกว่านั้นและไม่จะต้องพึ่งทหารนอกขึ้นตรงต่อตนเอง อีกอย่างเป็นเป็นการรับสารภาพถึงโชคชะตาที่ชนะก็ได้เกียรติยศแม้กระนั้นแพ้ก็ยังมีเกียรติ

The film centers on the famous Battle of Myeongryang in 1597 during the Japanese invasion of Korea (1592-1598), in which Admiral Yi Sun-sin, a symbol of Shocheon, destroyed a total of 31 Japanese warships. Out of 133 ships, only 13 remained. The battle, which took place in  Myongyang Strait off the southwestern coast of  Korean peninsula, is considered one of Yi’s greatest victories.

Watch movies online full story

South Korea’s epic film, costing more than 300 million baht to produce, launches the biggest ocean battle of 2014, based on the truth written in history in 1597 by Admiral Yisun Khun-shin ( Played by Choi Minsik from Oldboy), the leader of a Korean warship with only 12 ships. If he can defeat Admiral Todo With the Japanese navy, which has a power of more than 300 ships, by setting targets and reading the wind direction. S2P789 It has even changed to a strategy that has been used for teaching until now.