เมษายน 24, 2024

s2p789

เว็บคาสิโนออนไลน์ s2p789 มีเกมพนันครบวงจร

ดา บิด เด เค อา

ดา บิด เด เค อา

ส่องรายชื่อนักเตะ “พรีเมียร์ลีก” รับค่าเหนื่อยรายสัปดาห์สูงสุดในแต่ละฤชมกาล

30 ปี ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานับตั้งแต่ตั้งขึ้น พรีเมียร์ลีก มีนักเตะสูงถึง 17 ผู้คนที่ถือครองสถิติรับค่าเหนื่อยรายสัปดาห์สูงสุดในแต่ละฤดูกาล ดา บิด เด เค อา

นับตั้งแต่ทีมฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ เปลี่ยนจาก ดิวิชั่น หนึ่ง มาเป็นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในปี 1992 ก็เป็นที่ชื่นชอบเป็นเป็นอย่างมากกระทั่งเป็นกิจวัตรนี้และหยิบเป็นลีกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของโลกฟุตบอลแบบปฎิเสธมิได้

แน่นอนว่าตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา มีนักเตะจำนวนไม่ใช่น้อยที่แจ้งกำเนิดและโด่งดังจากทั่วทั่วโลกฟุตบอล และหลาย คนก็ใฝ่ฝันที่ต้องการมาลงเล่นบนลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกันกับเรื่องการจ่ายค่าจ้างนักเตะ พรีเมียร์ลีก หยิบเป็นอีก 1 ลีก ที่ส่วนมากจะมีผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดของวงการมาอยู่ภายในลีกด้วย และมันจะตามมาพร้อมกับการที่สโมรจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าว่าจ้างราคาสูงเพื่อชักชวนผู้เล่นชั้นหนึ่งเข้ามาสู่กลุ่ม

ซึ่งถ้าไล่ย้อนชมตั้งแต่ปี 1992 มีนักเตะอยู่ทั้งหมดทั้งมวล 17 ผู้คนที่ถือครองสถิติรับค่าเหนื่อยรายสัปดาห์สูงสุดในแต่ละฤดูกาล ซึ่งบางคนก็หยิบครองสถิติมาเป็นช่วงยาวนานมาก บางบุคคลก็หยิบสถิติแค่ครึ่งปีเพียงแค่นั้น โดยรายชื่อนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดในแต่ละปี ประกอบไปด้วย

  • 1992/93 – 1993/94 – หน้าจอห์น บาร์นส์ (ลิเวอร์พูล) 1 หมื่นปอนด์ (4.5 แสนบาท)
  • 1994/95 – เอริก คันโตนา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1.8 หมื่นปอนด์ (8 แสนบาท)
  • 1995/96 – เดนนิส เบิร์กแคมป์ (อาร์เซนอล) 2.5 หมื่นปอนด์ (1.1 ล้านบาท)
  • 1996/97 – ฟาบริซิโอ เหมือนกับาเนลลี (มิดเดิลสโบรห์) 4.2 หมื่นปอนด์ (1.8 ล้านบาท)
  • 1997/98 – 1998/99 – อลัน เชียเรอร์ (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด) 3.4 หมื่นปอนด์ (1.5ล้านบาท)
  • 1999/00 – 2000/01 – รอย คีน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 5.2 หมื่นปอนด์ (2.2 ล้านบาท)
  • 2001/02 – 2002/03 – รอย คีน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 9 หมื่นปอนด์ (3.9 ล้านบาท)
  • 2003/04 – เฮอร์นัน เครสโป (เชลซี) 9.4 หมื่นปอนด์ (4.1 ล้านบาท)
  • 2004/05 – แฟรงค์ แลมพาร์ด (เชลซี) 9.8 หมื่นปอนด์ (4.3 ล้านบาท)
  • 2005/06 – สตีเวน เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล) 1 แสนปอนด์ (4.5 ล้านบาท)
  • 2006/07 – อังเดร เชฟเชนโก (เชลซี) 1.18 แสนปอนด์ (5.2 ล้านบาท)
  • 2007/08 – หน้าจอห์น เทอร์รี (เชลซ๊) 1.35 แสนปอนด์ (5.9 ล้านบาท)
  • 2008/09 – โรบินโญ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 1.6 แสนปอนด์ (7 ล้านบาท)
  • 2009/10 – 2012/13 – คาร์ลอส เตเบซ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 2.5 แสนปอนด์ (10.1 ล้านบาท)
  • 2013/14 – 2016/17 – เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 3 แสนปอนด์ (13 ล้านบาท)
  • 2017/18 – 2018/19 – อเล็กซิส ซานเชซ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 3.5 แสนปอนด์ (15 ล้านบาท)
  • 2019/20 – ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 3.75 แสนปอนด์ (16 ล้านบาท)
  • 2020/21 – แกเรธ เบล (ทอตแนม ฮอตสเปอร์) 5.6 แสนปอนด์ (24 ล้านบาท)
  • 2021/22 – คริสเตียโน โรนัลโด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 4.8 แสนปอนด์ (21 ล้านบาท)

แมนยูฯ งัดไม้ตายดึงโกลใหม่เอกสารร้อนแทนที่ “เด เคอา” หลังสัญญาใหม่ยังเงียบ

ข้อตกลงฉบับใหม่ของ ดาบิด เด เคอา กับ “ปิศาจแดง” ยังอาจจะไม่แน่นอนมีผลให้สโมสรเตรียมการดึงโกลใหม่เกรดติดกลุ่มชาติลุยบอลโลกมาแทนที่แล้ว

วันอาทิตย์ที่ 20 มี.ค. 2565 เดอะ มิร์เรอร์ สื่อกีฬาชื่อราวกับของอังกฤษ รายงานว่า บอร์ดบริหารของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมีแผนการลับในการเรื่องของสัญญาฉบับใหม่ของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดของทีม ที่กำลังจะไปสู่ตอนสัญญา 18 เดือนท้ายสุดกับสโมสร

ซึ่งมีรายงานว่า สโมสรกำลังพิจารณาอาจจะจะปลดปล่อยตัวออกมาจากทีมในขณะข้างหลังจบฤดูกาลนี้ หรือ จะเกิดการเซ็นผู้รักษาประตูเพิ่มเติมอีกเพื่อจะมากดดันให้ “เด เคอา” รีบตกลงใจอนาคตของตนกับสโมสรให้รวดเร็วทันใจขึ้นเพื่อทำให้ทราบความเด่นชัดกับสโมสร ซึ่งมีรายงานว่า “ปิศาจแดง” กำลังให้ความสนใจในตัวของ ยาสซีน บูนู ผู้รักษาประตูทีมชาติโมร็อกโก ของ เซบีญา มาเข้าร่วมทัพในขณะหลังจบฤดูกาลนี้ถ้าสามารถปล่อยตัว ดาบิด เด เคอา ออกไปจากทีมได้สำเร็จ

เพื่อ ดาบิด เด เคอา ถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าคนสุดท้ายที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตสมัยบรมกุนซือของทีมทิ้งเอาไว้ให้ซึ่งนักเตะอยู่กับสโมสร มาตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งลงสนามรับใช้ทีมไปทั้งหมด 478 เกม เสียไป 512 ประตู แต่สามารถคลีนชีตได้มากถึง 164 นัด

เวลาที่ ยาสซีน บูนู เดี๋ยวนี้ในวัย 30 ปี กำลังมีระยะเวลาที่ดีที่สุดอยู่กับ เซบีญา ใน ลาลีกา สเปน ซึ่งผลงานในซีซั่นนี้ เสียไปแค่เพียง 22 ประตู ในทุกรายการ และคลีนชีตได้สูงถึง 15 ครั้ง จากการลงเล่น 33 นัดในทุกรายการ

5 ปีไม่มีแชมป์ “เด เคอา” ระบายความในใจหลังแมนยูฯ แพ้แอตฯ มาดริด ร่วงแดูเปียนส์ลีก ดา บิด เด เค อา

ผู้รักษาประตูแมนยูฯ เผยที่แท้ที่เจ็บปวดใจข้างหลังสโมสรไร้ถ้วยแดูป์เป็นปีที่ 5 ติดต่อสื่อสารกัน จากการตกรอบ 16 กลุ่ม ยูฟ่า แดูเปียนส์ลีก

วันที่ 16 เดือนมีนาคม 65 ควันหลงฟุตบอลยูฟ่า แดูเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดที่ 2 ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมชั้นเชิง 5 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แพ้คาบ้านให้กับ แอตเลติโก มาดริด เกรด 4 จาก ลา ลีกา สเปน 0-1 นำมาซึ่งการทำให้ “ตราหมี” เข้ารอบ 8 กลุ่มด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-1 ส่วน “ปิศาจแดง” หมดลุ้นแดูป์ทุกรายการในฤชมกาลนี้แน่นอนแล้ว

นอกต่อจากนั้น แมนยูฯ ยังไม่สามารถที่จะคว้าแชมป์รายการใดได้เลยเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ได้แดูป์ยูโรปาลีก กับ คาราบาว คัพ (ลีกคัพ) ในฤดูกาล 2016-2017 หยิบได้ผลงานที่ห่วยแตกที่สุดของสโมสร นับตั้งแต่เคยกำเนิดขึ้นในเวลาปี 1969-1976 ซึ่งในเวลาขณะนั้นไม่นับการคว้าแชมป์ดิวิชัน 2 (เดิม) ในปี 1975

ข้างหลังจบเกม ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน ออกมาพูดถึงความล้มเหลวอีกปีของแมนยูฯ ว่า “มันยากที่จะชี้แจงว่าเรารับรู้อย่างไร นี่เป็นอีกช่วงเวลาที่ลำบากเพื่อพวกเรา สิ่งที่พวกเราทำทั้ง 2 เกมไม่เพียงพอที่จะเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ผมรู้สึกว่าหมู่เขาเป็นทีมที่มีการทำงานที่เคยทำมา รู้เคล็ดลับจัดการเกมแบบนี้อย่างดีเยี่ยม และเล่นเกมรับได้เหนียวแน่น”

“มันยากเสมอเมื่อคุณตกรอบแดูเปียนส์ลีก โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างมากเมื่อชมจากความอุตสาหะของเรา เกมแรกเราออกไปเสมอก่อนกลับมาเล่นซึ่งๆหน้าแฟนบอลของพวกเรา ผมไม่ทราบดีว่าพวกเราควรจะชนะเกมนี้หรือไม่ แต่ท้ายสุดพวกเราก็ไม่ชนะและตกรอบอีกครั้ง นี่เป็นอีกปีที่แย่เพื่อเรา มันช้านานเกินความจำเป็นกับการไร้ถ้วยค่าตอบแทน (รวมทั้งมิได้แดูป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่ปี 2013)”

“ด้วยเหตุนี้ ผมรู้สึกว่าเราควรมีจุดหมายและแจ่มแจ้งว่าเราต้องการบรรลุความสำเร็จ ต่อสู้เพื่อที่จะถ้วยแดูป์ เราไม่ได้ควรจะเป็นแค่เพียงเล่นเพื่อจะท็อปโฟร์และหยุดอยู่แค่ตรงนั้น แล้วตกรอบ 8 ทีม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หรืออะไรทำนองนั้น เราควรจะเป็นมากยิ่งกว่านี้จากทุกๆ คน เนื่องมาจากสโมสรนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ พวกเราอยู่ไกลห่างจากการต่อสู้เพื่อคว้าแดูป์พรีเมียร์ลีก และแดูเปียนส์ลีก พวกเราก็เลยควรจะเป็นมากกว่านี้จากทุกท่าน”

“ซาลาห์” ยังไม่ต่อสัญญาลิเวอร์พูล เปิด 14 แข้งพรีเมียร์ลีกได้ค่าเหนื่อยมากมายยิ่งกว่า

เปิดรายชื่อ 14 นักเตะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ได้ค่าเหนื่อยมากยิ่งกว่า ซาลาห์ ซึ่งยังไม่เกิดการตกลงต่อข้อตกลงกับ ลิเวอร์พูล

วันที่ 13 เดือนมีนาคม 65 เดอะ มิร์เรอร์ สื่อเหมือนกับเมืองผู้ดี เผยว่าศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังมีผู้เล่นชั้นแนวหน้าอีก 14 รายที่ได้รับค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์มากกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูของ ลิเวอร์พูล กลุ่มรองจ่าฝูง หลังมีการเปิดมุมมองขึ้นมาอีกรอบว่า “หงส์แดง” ยังไม่อาจจะบรรลุกติกาต่อคำสัญญาฉบับใหม่ได้ ซึ่งสัญญาปัจจุบันนี้กำลังจะหมดลงในระหว่างซัมเมอร์ปี 2023 ทำให้ดาวเตะวัย 29 ปี อาจจะตัดสินใจย้ายทีมในระหว่างเปิดตลาดนักเตะฤชมร้อนที่จะถึงนี้

รายงานชี้เฉพาะว่า ซาลาห์ ต้องการค่าเหนื่อยเสริมเติมขึ้นจากตอนนี้ที่ได้รับสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (8.8 ล้านบาท) โดย รามี อับบาส เอเย่นต์ส่วนตัวได้เรียกร้องขอเพิ่มเติมค่าว่าจ้างให้เป็นสัปดาห์ละ 300,000 – 400,000 ปอนด์ (13.2 – 17.6 ล้านบาท) แต่ ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้รองรับความต้องการของดาวยิงทีมชาติอียิปต์แต่อย่างใด

ทำให้ เดอะ มิร์เรอร์ ได้เผยข้อมูลโดยพาดพิงจากเว็บไซต์ Spotrac ว่ายังมีนักเตะดังอีกถึง 14 คนที่ยังได้ค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์มากกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดังนี้

1. คริสเตียโน โรนัลโด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) สัปดาห์ละ 510,000 ปอนด์ (22.44 ล้านบาท)

2. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) สัปดาห์ละ 400,000 ปอนด์ (17.6 ล้านบาท)

3. ดา บิด เด เค อา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) สัปดาห์ละ 375,000 ปอนด์ (16.5 ล้านบาท)

4. เจดอน ซานโช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) สัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ (15.4 ล้านบาท)

5. ราฟาเอล วาราน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) สัปดาห์ละ 340,000 ปอนด์ (14.96 ล้านบาท)

6. โรเมลู ลูกากู (เชลซี) สัปดาห์ละ 325,000 ปอนด์ (14.3 ล้านบาท)

7. แจ็ค กรีลิช (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 300,000 ปอนด์ (13.2 ล้านบาท)

= ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 300,000 ปอนด์ (13.2 ล้านบาท)

9. เอ็นโกโล ก็องเต (เชลซี) 290,000 ปอนด์ (12.76 ล้านบาท)

= พอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 290,000 ปอนด์ (12.76 ล้านบาท)

11. ติโม แวร์เนอร์ (เชลซี) 272,000 ปอนด์ (11.96 ล้านบาท)

12. หน้าจอห์น สโตนส์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 250,000 ปอนด์ (11 ล้านบาท)

= เอดินสัน คาวานี (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 250,000 ปอนด์ (11 ล้านบาท)

14. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล) 220,000 ปอนด์ (9.68 ล้านบาท)

 

islam-in-focus